หน้าแรก >> บทความดีดี เกี่ยวกับนักผลิตยาอัจฉริยะ  “ดร. ฟิลิป ลาว”


มารู้จักกับนักผลิตยาอัจฉริยะ ผู้มีจิตอาสาต้องการที่จะพิชิตโรคมาลาเรียในไทย

โลกใบนี้แสนจะโชคดีที่มีนักนวัตกรรมผลิตยาระดับอัจฉริยะท่านหนึ่งที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน  โดยผมได้มีโอกาสเข้าไปรู้จักและสัมผัสถึงการมีจิตอาสากับท่านในหลายๆครั้งหลายๆโอกาสและหลายๆวาระทั้งผ่านการประชุมทางซูมออนไลน์บ้าง ติดต่อกันทางอีเมล์บ้าง แถมไม่นานมานี้ผมและท่านก็ยังมีโอกาสได้พบปะพูดคุยสนทนาส่วนตัวกันอีกด้วย

โดยเมื่อเย็นของวันที่ 5 มิถุนายน 2022 ที่เพิ่งผ่านมานี้ ผมได้พบเจอกับ “ดร. ฟิลิป ลาว”เป็นครั้งแรกขณะที่ท่านเดินออกจากประตูผู้โดยสาร ณ สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ที่คณะของท่านได้เดินทางมาจากประเทศเวียดนาม

อนึ่งผมรู้สึกมีความประทับใจต่อดร.ลาว เริ่มตั้งแต่รอยยิ้มที่ดูอบอุ่นเบิกบานร่าเริงเป็นกันเองประหนึ่งผมกับท่านเคยรู้จักกันมาหลายสิบปีเลยทีเดียว!!!

ทั้งนี้ในโอกาสแรกที่ผมได้พบปะกับดร.ลาวผ่านทางซูมเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 2021เป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงจากการแนะนำของ

“ศาสตราจารย์ ดร.ชัด อัลเรด” เพื่อนสนิทนานกว่าเกือบสิบปี ซึ่งท่านผู้นี้ทำงาน ณ มหาวิทยาลัยเพอร์ดู ในสถาบันเดียวกันกับดร.ฟิลิป ลาวนั่นเอง

ทั้งนี้ดร.ชัด อัลเรด มีความชื่นชอบและหลงใหลในเสน่ห์ของวัฒนธรรมเชียงใหม่ และมีความผูกพันธ์และมีมิตรไมตรีอันดีกับ “มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่”  สืบเนื่องมาจากมิตรไมตรีที่ถือเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ทางด้านวิชาการของทั้งสองมหาวิทยาลัยสองฝั่งซีกโลก

โดยศาสตราจารย์ดร.ชัด ได้นำนักศึกษาเดินทางไปร่วมโครงการต่างๆกับมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ กว่าเก้าปีที่ผ่านมา

ฉนั้นการที่ได้พูดคุยสัมผัสกับดร.ฟิลิป ลาวผ่านทางซูมในครั้งนั้น ผมมีความประทับใจและสามารถรับรู้ได้ว่า ท่านเป็นคนจริงใจ ถ่อมตน และมีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ สืบเนื่องมาจากดร.ลาวมีความพร้อมในทุกๆด้านแล้ว อีกทั้งการที่ท่านทุ่มเทเวลาอันแสนมีค่าของท่านช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมนั้น ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า ท่านมีจิตกุศลเป็นอย่างยิ่ง

ล่าสุดนี้ท่านได้ผลิตยาตัวใหม่ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นตัวยาที่จะรักษาเชื้อโรคมาลาเรียที่มีประสิทธิภาพสูงมากกว่าตัวยาอื่นๆทุกตัวที่มีอยู่ในตลาดขณะนี้ โดย ดร.ฟิลิป ลาว ก็ยังมีความมุ่งมั่นต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยกำจัดโรคโควิด-19 ที่เหลืออยู่ให้หมดสิ้นไปในประเทศไทยภายในปี 2030 อีกด้วย!!!

และผมได้ทราบมาว่าสมัยที่ดร.ฟิลิป อยู่ในวัยหนุ่มไฟแรง ท่านได้โฟกัสทุ่มเทเวลาและมันสมองทางด้านค้นคว้าวิจัยผลิตยาต่างๆออกสู่ตลาดมากมาย และขณะนี้ท่านมีบริษัทด้านเภสัชกรรมถึง7 แห่ง  และท่านก็ยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรหลายร้อยชิ้นอีกด้วย

โดยสิทธิบัตรส่วนใหญ่ที่ ดร.ลาวได้รับนั้น ล้วนมาจากนวัตกรรมจากบริษัท “Endocyte” ซึ่งเป็นบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์กรรมที่ดร.ลาวก่อตั้งขึ้น เมื่อปี 1996 ปีและได้ขายให้กับบริษัท Novartis ในราคา 2.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2018

ดร.ฟิลิป ลาว ยังได้รับรางวัลนักวิชาการในการค้นพบยาและเป็นศาสตราจารย์อันทรงเกียรติแขนงเคมีที่เรียกว่า “the Presidential Scholar for Drug Discovery and the Ralph C. Corley Distinguished Professor of Chemistry” ณ มหาวิทยาลัยเพอร์ดู ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยสาธารณะชั้นนำ โดยนิตยสาร US News and World Report ได้จัดให้มหาวิทยาลัยเพอร์ดูเป็นหนึ่งใน 10 ของมหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนวัตกรรมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา

และล่าสุดนี้ ดร.ฟิลิป ลาว ได้สร้างประวัติศาสตร์ผลงานชิ้นโบว์แดงในการผลิตยาเพื่อใช้พิชิตโรคมาลาเรีย โดยเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2022 นี้ ณ มหาวิทยาฮาร์วาร์ด ดร.ฟิลิป ลาว ได้เข้ารับรางวัลเชิดชูนักเคมีอันทรงเกียรติดีเด่น โดยรางวัลนี้ชื่อว่า “Gustavus Essenlen Award” เพื่อผลประโยชน์ของสาธารณะชนเกี่ยวกับการค้นพบเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคมาลาเรียแนวใหม่ที่มีประสิทธิภาพ 100% ซึ่งรางวัลนี้เป็นรางวัลประจำปีจากสมาคมเคมีอเมริกัน (American Chemical Society) และเป็นการยกย่องผลงานที่มีเจตนารมณ์ต้องการที่จะเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่สาธารณชน และยังเน้นย้ำถึงคุณค่าของเคมีในวิชาชีพ

อนึ่งดร.ฟิลิป ลาวได้กล่าวจากการให้สัมภาษณ์ ณ มหาวิทยาลัยเพอร์ดูเมื่อเร็วๆนี้ว่า “เมื่อข้าพเจ้าเริ่มมองเห็นปัญหาทางด้านการแพทย์ ข้าพเจ้าจึงตระหนักดีว่า ข้าพเจ้าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งรัดหาแนวทางที่เป็นนวัตกรรมขั้นสูงที่สามารถจะลดสาเหตุการตายและการเจ็บป่วยของเพื่อนมนุษย์ ”

จากการที่ผมได้พบเจอกับดร.ลาว ที่ประเทศไทย ทำให้ผมรู้สึกว่าขณะนี้ดร.ฟิลิป ลาว ใช้ชีวิตแสนจะติดดินไม่ยึดติดกับลาภ ยศ สรรเสริญทั้งหมดแล้ว โดยท่านต้องการจะอุทิศเวลาที่เหลือเพื่อมนุษยธรรมเท่านั้น!!!

การวางตนเป็นคนติดดินของดร.ฟิลิป ลาวนับว่าเป็นแคแรคเตอร์ประจำตัวดังจะเห็นได้จากเมื่อเย็นวันที่ 5 มิถุนายนนี้หลังจากที่ท่านเดินทางเข้าโรงแรมเก็บกระเป๋าสัมภาระต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านได้เอ่ยปากกับผมว่า “อยากทานอาหารไทยที่มีรสชาติแบบไทยๆและแบบง่ายๆตามสั่ง” และแทนที่ผมจะพาคณะของท่านไปทานอาหารร้านหรูๆ ผมก็ตามใจโดยได้พาคณะของท่านไปรับประทานอาหารตามสั่ง สนองตอบความต้องการของท่าน โดยไปรับประมนอาหารตามสั่งที่ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ใกล้ๆกับสนามบินนานาชาติเชียงใหม่

และอาหารที่คณะของดร.ลาวรับประทานในคืนวันนั้นก็มีหลากหลายอาทิ แกงเผ็ดไก่ แกงส้ม แกงมัสมัน ต่อด้วยอาหารเผ็ดอีกหลายๆรายการ ซึ่งท่านและคณะของท่านก็ทานกันอย่างเอร็ดอร่อยไม่ร้องบ่นว่าเผ็ดกันเลยสักคำ!!!

ส่วนในการต้อนรับอย่างเป็นทางการที่มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2022 นั้นปรากฏว่า ดร.ลาวได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก “ท่านอธิการบดีดร.ณรงค์ ชวสินธุ์” แห่ง มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่

และในโอกาสนั้นดร.ลาวได้ใช้เวลาประมาณสามสิบนาที โดยท่านได้กล่าวย้ำว่า “ขณะนี้ยังไม่มียารักษาโรคมาลาเรียที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับตัวยาที่ท่านพิสูจน์แล้วในประเทศเวียดนาม ซึ่งได้ผล 100% และยังไม่มีผลข้างเคียงใดๆต่อผู้ป่วยทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 มิถุนายน 2022 ดร.ลาวและคณะได้ออกเดินทางภาคสนามไปจังหวัดตาก ซึ่งเป็นแหล่งที่โรคมาลาเรียชุกชุมมากที่สุดของประเทศไทย   โดยได้เข้าปรึกษาหารือกับ “แพทย์หญิงซินเธีย เมือง” ผู้บุกเบิก “แม่ตาวคลินิค” ซึ่งเป็นคลินิกที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และยังเข้าพบปะปรึกษาหารือกับ “ศาสตราจารย์ François Nosten”จากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ณ.ศูนย์ “Shoklo Malaria Research”  และยังได้ปรึกษากับ “คุณกฤษณะ  สุขอ่วม”  และคณะหัวหน้าศูนย์ควบคุมโรคติดต่อที่มีแมลงเป็นพาหะนำโรคโดยผู้ช่วยรองอธิการบดีอาจารย์เสวตร์ ตาจุมปาเป็นผู้รวบรวมข้อมูลให้ครับ

เมื่อดร.ลาวกลับจากภาคสนามท่านอธิการบดีดร.ณรงค์ ชวสินธุ์และ รองอธิการบดีอาจารย์ชุติมา ชวสินธุ์ ได้จัดเลี้ยงอาหารค่ำให้กับคณะของดร.ลาวอีกวาระหนึ่ง ที่ “ครัวอาจารย์สายหยุดและหมอทราย” ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงเลื่องลือด้านอาหารไทยแท้แบบดั้งเดิม ที่ทางร้านใช้สโลแกนว่า “ อาหาร…ศิลปแห่งการใช้ชีวิต”ที่ช่างแสนจะเหมาะสมเหลือเกินเพราะอาการของทางร้านจัดแต่งประดิดประดอยอย่างสวยงามและแสนอร่อย

โดยวันนั้นผมก็ยังได้เรียนรู้ถึงเรื่องใหม่ๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตของดร.ลาว โดยท่านคุยอย่างเปิดเผยมากมายและยังเล่าให้พวกเราฟังอีกด้วยว่า คุณพ่อของท่านก็เป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ณ มหาวิทยาลัยเพอร์ดู เช่นกัน

และดร.ลาว ยังได้กล่าวว่าให้พวกเราฟังว่า ท่านจัดให้อาหารไทยมีรสชาติและมีวัฒนธรรมอันงดงามเป็นอันดับหนึ่งของโลก และวันนั้นท่านอธิการบดี ดร.ณรงค์ ชวสินธุ์ ยังได้ให้เกียรติจัดฉลองวันเกิดให้แก่ภรรยาของดร.ลาวอีกด้วย โดย “คุณมอลลี่ ฟอล์คเนอร์” เพื่อนสนิทของผมที่ร่วมเดินทางไปจากอเมริกาก็ได้ร้อยพวงมาลัยดอกไม้อันแสนสวยงามมอบให้แก่ภรรยาของดร.ลาวอีกด้วย

อนึ่งเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2022 ก่อนที่ดร.ลาว จะเดินทางกลับประเทสสหรัฐฯคณะของท่านได้ประชุมผ่านซูม เพื่อปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโรคมาลาเรียในประเทศไทยกับ “ดร.ประยุทธ์ สุดาทิพย์”นักวิชาการของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหาความร่วมมือต่อกันในอนาคต

ท้ายสุดนี้ผมต้องขอกล่าวคำขอขอบคุณ “รองอธิการบดี อาจารย์ชุติมา ชวสินธุ์” “ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บงกช สุทัศน์ ณ อยุธยา” “ผู้ช่วยรองอธิการบดีอาจารย์เสวตร์ ตาจุมปา”  “อาจารย์นีรนาท ตาจุมปา”  และ “ผ.อ.สมเกียรติ คำสุข” ผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี ที่ทุกๆท่านเมตตาให้ความช่วยเหลือให้การต้อนรับ และ อำนวยความสะดวกในทุกๆด้านต่อ คณะของ “ดร.ฟิลิป ลาว” มา ณ ที่นี้ด้วย

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้น “ดร.ฟิลิป ลาว” ได้ประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆเพื่อช่วยเหลือปรับปรุงชีวิตของมวลหมู่มนุษย์นับล้านๆคนให้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งๆขึ้น ส่วนโครงการด้านการพิชิตโรคมาลาเรียในประเทศไทยก็ถือเป็นโครงการระดับประเทศ ที่พวกเราชาวไทยน่าจะมีความภาคภูมิใจและน่าจะให้ความร่วมมือที่เราจะมีอัจฉริยะระดับโลกมุ่งมั่นที่จะเข้าไปช่วยเหลือขจัดโรคมาลาเรียให้หดหายจากประเทศไทยสักวันหนึ่งข้างหน้าละครับ

CR. ดร.วิวัฒน์  เศรษฐช่วย  ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่

มารู้จักกับนักผลิตยาอัจฉริยะ ผู้มีจิตอาสาต้องการที่จะพิชิตโรคมาลาเรียในไทย - Siam Media - สยามมีเดีย

http://live.siammedia.org/index.php/article/bankhao-banrao/91255 

 


ผู้ประกาศข่าว : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มนช. ประกาศข่าวเมื่อ : 24 มิถุนายน 2565
| |